วันพฤหัสบดีที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2557

สวรรค์จำนรรจา (CHITCHAT IN HEAVEN)

สวรรค์จำนรรจา
สรวงสวรรค์ชั้นฟ้าตามเรียกขาน
ตำหนักน้อยใหญ่บ้างนางสนม
ผู้ใดใคร่ครองเขตให้ได้ภิรมย์
ข้าฯขอเพียงมีเจ้าสมดวงหทัย
โดย: ยูนูส เอมเร่ ศตวรรษที่ ๑๓ กวีมุสลิม ชาวตุรกี

มันช่างเป็นวันที่สวยงามที่สุดของสัปดาห์ และเป็นช่วงเวลาที่สวยงามที่สุดของวันนั้นด้วย ภาพงดงามที่พระผู้เป็นเจ้าประทานมาหาให้โผล่พ้นยอดเขาที่รายรอบตัวเมืองขึ้นมา ราวกับพระอาทิตย์ขึ้นในฤดูใบไม้ผลิ เหล่ามวลชลผู้ภักดีต่างรอคอยวันนี้มาทั้งสัปดาห์เพื่อเฉลิมฉลองความงดงามที่หาซื้อไม่ได้ที่พระผู้เป็นเจ้าประทานให้ที่กำลังฉาบทาบอยู่บนใบหน้า ผู้คนนับพันล้านต่างปิติยินดีที่ได้เห็นพระองค์ในลักษณะไม่มีผ้าคลุมหน้ามาปิดกั้นระหว่างเขากับพระเจ้า
ด้วยอารมณ์ขณะนั้นมีความเป็นไปได้สุงที่จะเกิดการระเบิดความรู้สึก แทบทุกคนปณิธานกับตนเองว่าจะไม่ยอมพรากจากนาทีสำคัญนี้ พายุแห่งความสันติสุขแผ่ซ่านทั่วท้องนภา ในช่วงเวลาแห่งความรื่นรมย์อันล้นพ้นนั้นสายตาของอาห์เหม็ดไปสะดุดที่เพื่อนที่คบหากันตั้งแต่ครั้งวัยเยาว์ อาเด็มกำลังปลีกตัวออกจากฝูงชนที่หนาแน่นนี้ไปหาที่สงบให้ตัวเอง อาห์เหม็ดจึงรุกตามไปอย่างง่ายดาย
-                   ว่าไงเพื่อน สบายดีไหม ไม่ได้เจอกันเป็นอาทิตย์แล้วนะ ถ้าไม่ใช่วันศุกร์เราคงไม่ได้พบกันเลยในแดนสวรรค์นี้
เขารู้ว่ามาว่าพักหลังมานี้อาเด็มประสบปัญหาอย่างหนัก แต่เขาไม่รู้ว่าจะเริ่มบทสนทนาอย่างไร จึงเลือกเปิดประเด็นแบบเพื่อนกันฉันท์มิตรจากเมื่อครั้งยังอยู่ในโลกมนุษย์ อาเด็มไม่สู้จะเต็มใจเปิดปากพูดมากนัก ถ้อยคำออกมาช่างยากเย็นราวกับกำลังปั่นจักรยานขึ้นยอดเขา
-                   เราสบายดี นายก็น่าจะรู้เราไม่มีปัญหาอะไรอยู่แล้ว เราอยู่ในสวรรค์กันนะ ที่นี่ไม่มีคำว่า “ปัญหา” นายก็รู้นี่
อาห์เหม็ดเข้าไปจ้องเขาชิดมากขึ้น พวกเขารู้จักกันมาตั้งแต่สมัยมัธยมต้น แม้จะแยกไปเรียนมัธยมปลายคนละโรงเรียนแต่ความเชื่อมั่นศรัทธานำพาให้เจอกันอีกครั้งในมหาวิทยาลัยคณะเดียวกันคือ วิศวะกรรมศาสตร์ และนับตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมาพวกเขาก็เป็นเพื่อนรักแยกกันไม่ออก จนแม้ความตายก็มิอาจทำให้เปลี่ยนแปลงไปมากนัก
-                   นายมีอะไรบางอย่างปิดบังฉัน เรื่องนางสนมอีกแล้วใช่ไหม ฉันได้ยินมาว่านายไล่นางสนมออก แล้วมันจริงไหมที่ว่าบ้านนายไม่มีแม้แต่เสนารับใช้สักคน ฉันไม่เข้าใจนายเลย ตอนอยู่โลกมนุษย์เราต่างมีความอดทนไม่ยอมให้ความกดดันทำอะไรเราได้ ตอนนี้เราสมควรได้รับผลตอบแทน นายอย่าไปกังวลใจกับเรื่องของคนอื่นเลย ขอบคุณพระเจ้าที่เราข้ามสะพานมาสู่สวรรค์ได้อย่างฉลุย ฉันไม่เข้าใจว่าทำไมนายจึงยังทำให้ตัวเองยุ่งยากอยู่อีก ดูสิตอนนี้ฉันมีนางสนมถึง ๗๐นาง เสนารับใช้อีก ๒๐ นาย พอวันศุกรฉันก็มาร่วมพิธีนี้ ฉันมีความสุขกับชีวิตในสวรรค์ นายก็ทำได้
อาเด็มยิ้มเจื่อนเมื่อได้ยินตัวเลข ๗๐ พยายามกลั้นหัวเราะ เพราะหากเขาหลุดขำออกมาก็เท่ากับว่าเขาสนับสนุนความคิดของอาห์เหม็ดที่มีนางสนมถึง ๗๐ นาง
-                   ฉันทนไม่ได้กับความจริงที่ว่าสนมและเสนาพวกนั้นทำงานให้ฉันทั้งวันเปล่าๆเปลี้ยๆโดยไม่ได้อะไรตอบแทนเลย ฉันรู้สึกผิดและความรู้สึกนี้กัดกร่อนจิตใจฉัน ฉันอดคิดไม่ได้ว่าพวกเขาเองก็มีสิทธิเสรีภาพที่จะเป็นอิสระและมีชีวิตที่ดีอย่างพวกเรา
อาห์เหม็ดลูบเคราที่เขาปล่อยยาวไว้หนึ่งปี
-                   นายพูดจาไร้สาระนะอาเด็ม นายก็รู้ข้อนี้ดีแต่นายทำเป็นดันทุรังเพราะรับไม่ได้ พวกนั้นถูกสร้างมาเพื่อรับใช้เรา ความหมายของการมีอยู่ของพวกนั้นคือมีไว้เพื่อสร้างความสุขความพอใจให้เราไงหละ หาใช่เหตุผลอื่นใดไม่ ไม่มีการบังคับกดขี่ข่มเหงอย่างแน่นอน ยิ่งปรนนิบัติเอาอกเอาใจจนเราพอใจมากเท่าไรพวกนั้นก็ยิ่งยินดีทำเท่านั้น เชื่อฉันเถอะนะเพื่อน ฟังนะ นายรู้ไหมว่าฉันคิดอะไรออก นายให้ฉันส่งสนมของฉันสัก ๑๐นางไปบ้านนายนะ คืนนี้นายมีความสุขกับพวกนางให้เต็มที่ ปล่อยจิตใจให้ล่องลอยเบาสบาย แล้วพรุ่งนี้ค่อยไปเลือกสนมดีดีด้วยกัน
อาเด็มจ้องหน้าเพื่อนเพื่อดูว่าอาห์เหม็ดจริงจังกับสิ่งที่เสนอมาหรือไม่แค่ไหน แล้วมันก็ทำให้เขาประหลาดใจ อาห์เหม็ดเอาจริงกับเรื่องนี้ จากประสบการณ์ตลอดระยะเวลาที่เป็นเพื่อนกันมายาวนานทั้งชีวิต เขานับว่าอาห์เหม็ดเป็นคนประเภทชอบโรยเกลือบนแผลของเพื่อนมาโดยตลอด และมันไม่เคยเปลี่ยนไปเลยสักนิด

-                   อย่าเลย ฉันสบายดีกับสิ่งที่เป็นอยู่ เย็นนี้ฉันว่าจะอ่านอะไรสักหน่อย อีกอย่างนะนั่นมันจะกวนใจฉันมาก ความสุขที่สุดที่ฉันยังคงต้องการคือการได้อ่านหนังสือและคิดตาม
หน้าของอาห์เหม็ดเผยรอยยิ้มแหยๆที่แสดงถึงความผิดหวัง เขาไม่อยากจะเชื่อว่าอาเด็มจะปฏิเสธข้อเสนอ บางทีเขาคงต้องเบี่ยงประเด็นเสียแล้ว
-                   นายรู้ไหมว่าอะไรทำให้ฉันมีความสุขได้ ฉันดีใจที่เราต่างก็หย่าเรียบร้อยก่อนตาย ไม่เช่นนั้นคงต้องมาทนฟังเสียงหนวกหูน่ารำคาญของบรรดาเมียๆ ที่จริงนายได้อยู่ต่ออีกหลายปีหลังจากนายหย่า ส่วนฉันเจออุบัติเหตุทันทีในวันที่ศาลอนุมัติให้ฉันหย่า ตายวันนั้นเลย พระเจ้ารักฉันทำให้ฉันหนีมาได้ทันท่วงที ตอนนี้ฉันจึงแสนจะสบาย เมียฉัน อืมฉันหมายถึงเมียเก่าฉันหนะไปอยู่อีกมุมหนึ่งของสวรรค์ ไม่ต้องเจอกันอีก ลูกๆของเรามาเยี่ยมบ้างเป็นบางครั้ง ลูกฉันมาเมื่อไรฉันก็ให้สนมออกไปอยู่ข้างนอก ฉันไม่อยากให้ลูกๆเข้าใจฉันผิด นายก็รู้ฉันเป็นพ่อของพวกเขา บางครั้งฉันก็ละอายใจแต่พอพวกเขาไปเราก็จัดปาร์ตี้หฤหรรษ์ในสวรรค์ชั้นฟ้ากันอีก เอาน่าเพื่อน อย่าปฏิเสธข้อเสนอฉันเลย เอาไปสัก ๑๐นาง สมองจะได้โล่ง และตัวนายจะได้สบายขึ้น
-                   อย่าเกลี้ยกล่อมฉันให้ยากเลยอาห์เหม็ด ฉันไม่มีทางตกลงหรอก ครั้งสุดท้ายที่ฉันมีอะไรกับสนมนั่นมันทำให้ฉันรู้สึกแย่ไปหลายเดือน ฉันทุกข์ทรมานราวกับพกหินไว้ในท้องแล้วเดินไปบนธารน้ำผึ้งเหนียวหนืดนั่น ฉันไม่มีทางจะสำราญใจจากการเบียดเบียนคนอื่นได้หรอก
-                   อ้า นายเฉไฉไปเรื่อยแล้วเพื่อน ใครเบียดเบียนใคร พวกนั้นทำงานตามหน้าที่ต่างหาก นายก็ต้องทำตามหน้าที่ด้วย หน้าที่ของนายก็คือมีความสุขไงหละ เมื่อครั้งตอนอยู่ในโลกนายก็เป็นแบบนี้ นายต้องขอบคุณฉันที่ไม่ปล่อยให้นายทำไปตามวิธีของนาย ไม่อย่างนั้นจิตนายคงดำมืดจากความคิดอันตรายพวกนั้น และนายคงไม่ผ่านการทดสอบชีวิตมาแน่ เราข้ามสะพานมาได้เพราะฉันแท้ๆ
-                   ถูกแล้วอาห์เหม็ด ฉันจะขอบใจนายอย่างไรดี แต่ถึงอย่างไรนี่ก็ไม่ได้ทำให้ฉันเปลี่ยนใจเรื่องสนมกับเสนาได้ ฉันไม่อยากให้พวกเขามีตัวตนด้วยซ้ำ เราจะได้ทำอะไรของเราเอง
อาห์เหม็ดหัวเราะร่วน
-                   นายพูดไม่คิดเลย มันไม่ใช่แค่เรื่องงานการนะ ความจำเป็นในชีวิตของเราหละ เราจะทำสิ่งต่างๆเองให้เรียบร้อยเข้าที่เข้าทางจนสมใจเราได้เองหรือ พูดไม่เข้าท่าเลย พระผู้เป็นเจ้าประทานความเมตตาให้เราอย่างไม่มีที่สิ้นสุด เราผู้เต็มไปด้วยความศรัทธา ไม่มีสิทธิปฏิเสธความเมตตาที่พระองค์ประทานให้
อาเด็มเบิกตากว้างเมื่อได้ยินคำว่า “ไม่มีที่สิ้นสุด” บางทีนี่อาจเป็นเพียงโอกาสเดียวในวันนี้ที่เขาได้ เขาอยากไหลไปตามน้ำ
-                   นายบอกว่าไม่มีที่สิ้นสุดซึ่งมันทำให้ฉันสับสนมาหลายวันแล้ว ฉันเข้าใจและเคารพนะที่พระเจ้าของเรามีพลังอำนาจไม่มีที่สิ้นสุด และงดงามอย่างหาที่สุดมิได้
-                   ใช่แล้ว ในที่สุดนายก็พูดจาเข้าท่า
-                   เปล่าฉันยังพูดไม่จบ แล้วพลังอำนาจกับความงดงามอย่างหาที่สุดมิได้นี้มาจากไหน
-                   อาเด็มเพื่อนรัก นายกำลังสับสนกว่าที่ฉันคิดไว้ ถ้านายยังเป็นแบบนี้ต่อฉันจะไม่คุยกับนายอีก ไม่อย่างนั้นนายจะทำให้ฉันเดือดร้อนไปด้วย นายมันบ้า นายได้ยินที่ตัวเองกำลังพูดอยู่ไหม
-                   ใจเย็นสิอาห์เหม็ด ไม่เห็นจะต้องกังวลเลย เชื่อฉันสิฉันก็แค่คิดๆดู
-                   ไม่อ่ะ นายไม่แค่คิดๆดู นายกำลังมุ่งไปสู่การนอกรีตไร้ศาสนา การคิดวิเราะห์คำนึงนั้นสร้างสรรค์ให้สูงขึ้น แต่นายกำลังจะลงต่ำ
-                   ทำไมนายคิดอย่างนั้น มาช่วยกันสิ เราต่างก็รู้ดีว่าไม่มีแนวคิดใดที่ว่าด้วยการไม่มีที่สิ้นสุด ตามหลักการแล้วกล่าวได้ว่ามีจำนวนนับไม่ได้ไม่มีที่สิ้นสุดของจำนวนอันหาที่สุดไม่ได้ อย่างเช่น มีจำนวนที่นับไม่ได้อยู่ระหว่าง ๐ กับ ๑ แต่ว่าก็ยังมีจำนวนที่นับไม่ได้ระหว่าง ๑ ไปถึงหาที่สุดไม่ได้ด้วยเช่นกัน เราเรียกสองอย่างนี้เท่ากันได้ไหม ก็ไม่ได้อีก อันหลังสิที่ยิ่งใหญ่กว่าอันแรก
-                   แล้วยังไงหละ นายต้องการอะไร นายทำให้ฉันกระหายใคร่รู้ขึ้นมาซะแล้ว อยู่ดีดีนายก็เพาะเมล็ดความสงสัยใส่ในหัวฉัน เอาเถอะ ว่าไงต่อ
-                   ไม่ต้องห่วงหรอกไม่มีอะไรเลวร้ายเกิดขึ้นกับนายแน่ๆ เราไปเฝ้ารอพระเจ้าในวันศุกร์ เราชื่นชมบารมีอันไม่มีที่สิ้นสุดของพระองค์ ชื่นชมความปราดเปรื่องรอบรู้และความงามอันหาที่สุดมิได้ของพระองค์นะ
-                   แล้วยังไงต่อ

-                   ถ้าหากว่ามีพระเจ้าอยู่อีกองค์หนึ่งหละ ที่ไม่มีที่สิ้นสุดยิ่งกว่าพระเจ้าของเรา เราจะพิสูจน์ว่าไม่มีได้ไหม
-                   เราก็ไม่มีข้อพิสูจน์ว่ามีเช่นกัน
-                   นายพูดถูกอาห์เหม็ด ฉันแค่สงสัยหนะ แค่คิดๆวิเคราะห์ดู
-                   ฉันว่านายทำให้เป็นเรื่องใหญ่ไปนะ นายไม่เห็นรึเราอยู่ในสวรรค์กันนะเพื่อน การคิดแบบนั้นคงดีถ้าเรายังอยู่ที่โลก เราไม่ต้องเอามาคิดอีกต่อไปแล้ว นายรักใครสักคน หรือให้คนมารักตามแต่ใจจะใฝ่หาสิ ที่นี่มีลำธารสายน้ำผึ้งและน้ำตกไวน์ ถ้านางสนมทำให้นายมีความสุขไม่ได้ก็ลองหาความสนุกเพลิดเพลินจากพวกนางงามไป
-                   อาห์เหม็ดแต่ว่า...ฉันสนุกกับการคิดวิเคราะห์ มันทำให้ฉันสำราญยิ่งการนางสนมหรือธารน้ำผึ้งเป็นไหนๆ ก็เหมือนกันทุกๆคนที่เลือกทำในสิ่งที่ตนเองชอบและมีความสุขกับมันฉันก็เช่นกัน ฉันผิดด้วยหรือ
-                   ได้ได้อาเด็ม นายอยากทำอะไรก็ทำไปแต่อย่าเอาฉันไปเกี่ยวข้อง บอกฉันด้วยถ้านายมีความสุขตื่นเต้นกับเรื่องอื่นอีก
-                   ไม่ต้องห่วงเราเราอยู่ในสวรรค์ นายเคยบอกฉันไม่ใช่รึว่าถ้าเราได้มาถึงที่นี่แล้วเราก็อยู่ที่นี่ได้ตลอดไป ฉันจะยกตัวอย่างนึง นายเองก็เรียนวิศวะกรรมศาสตร์มาน่าจะเข้าใจได้ไม่ยาก ลองคิดฟังชั่น f(x) = ln(x) มันมีการผันแปรเพิ่มขึ้นทีละน้อย คราวนี้ให้นึกฟังชั่น g(x) = ex   นี่ก็ผันแปรเช่นกันแต่เพิ่มจำนวนครั้งอย่างรวดเร็วไม่มีที่สิ้นสุดไปจนหาที่สุดมิได้ ฉันหมายถึงไม่ว่าอัตราส่วน g(x) หรือ f(x) ต่างนับไม่ได้เช่นกัน ตอนที่เราอยู่โลกเราพอจะเชื่อได้ว่ามีบางสิ่งที่นับไม่ได้แต่ตอนนี้ฉันสงสัย ถ้าหากพระเจ้าที่เราเห็นทุกวันศุกร์เป็น f(x) แล้วมี g(x) ที่มีพลังอำนาจความงามความรู้อย่างหาที่สุดมิได้ยิ่งกว่าหละ หากเป็นเช่นนั้นในสรวงสวรรค์ของ g(x) ก็คงไม่มีนางสนมและเสนาอยู่ สิ่งที่มีอยู่จะมีค่าเท่าเทียมกันตามธรรมชาติของมัน
-                   โธ่อาเด็ม นายติดแหง่กกกับเรื่องความเท่าเทียมความไม่เท่าเทียมนั่นเอง ฟังฉันนะ นายจะเท่าเทียมและมีอิสระภาพมากไปกว่าที่นายมีในสวรรค์นี้ไม่ได้แล้ว ไม่มีชีวิตหลังจากนี้แล้ว ชีวิตนี้ที่เราได้รับสิ่งต่างๆมามันงดงามยอดเยี่ยมที่สุดเท่าที่จะเป็น แสดงความกตัญญูสิ นายอาจลงนรกในที่สุด หรือนายอาจไม่มีตัวตนด้วยซ้ำ
-                   นายรู้ได้อย่างไรอาห็เหม็ด
-                   รู้อะไร
-                   นายรู้ได้อย่างไรว่าที่นี่คือสวรรค์ไม่ใช่ด่านทดสอบ บางทีทั้งหมดทั้งมวลที่เราเห็นและสัมผัสอาจมีอีกพลังอำนาจหนึ่งอยู่ ที่เราเห็นและสัมผัสอาจสร้างมาจากอีกพลังอำนาจนั้น ฉันกำลังพูดถึง g(x) บางทีเขาอาจต้องการให้เราตามหาเขา ให้เราคิดวิเคราะห์ใคร่ครวญดูและเข้าถึงเขาด้วยการคิดแบบนี้
-                   ฉันจะกลับบ้านแล้ว อาเด็มนายไม่ใช่แค่คิดมากแต่นายยังพูดมากอีกด้วย ถ้านายยังเป็นแบบนี้ นายจะทำให้สวรรค์ของนายกลายเป็นนรกเสียเอง ฉันจะแนะนำว่าให้นายหาอะไรทำได้แล้ว
-                   ได้สิ นายกลับไปเลย แต่ขอให้ฉันถามอีกข้อหนึ่ง นายจำตอนที่เราอยู่คณะฯได้ไหม ฉันเคยอ่านปรัชญาเยอะมากและตั้งคำถามถึงความหมายของชีวิต ในตอนนั้นนายช่วยเหลือฉันให้ผ่านมาได้และให้ฉันได้รู้จักกับพลังอำนาจอันไม่มีที่สิ้นสุดของพระเจ้า นายรู้ไหมว่าฉันคิดอะไรในวันนี้ ฉันสงสัยว่าพระองค์เองก็คงถามตัวเองว่ามีไว้ทำไมเหมือนที่ฉันเคยถาม ฉันหมายความว่าเขาจะเคยถามตัวเองไหมว่าเขามีไว้ทำไมหรือทั้งหมดนี้มีความหมายว่าอะไร เขาจะเคยสงสัยไหมว่าจะมีพลังอำนาจอีกหนึ่งที่ยิ่งใหญ่กว่า ถ้าใช่เขาก็น่าจะมาสู่บทสรุปเดียวกันกับที่ฉันมาถึง โดยยึดกฎและตรรกะเดียวกันกับที่ฉันใช้ ใช่หรือไม่

ทันทีที่อาเด็มพูดจบพื้นดินเบื้องล่างที่เขายืนอยู่ก็ไหวสั่นเกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว เกิดรอยร้าวจากข้างหลังเขาและขยายใหญ่ขึ้นในเวลาอันรวดเร็ว มันพุ่งผ่านเข้ามาระหว่างขาสองข้างของเขาจนยากที่จะทรงตัว เพียงไม่กี่วินาทีเท้าทั้งสองข้างก็เกาะเกี่ยวขอบที่แตกร้าวเอาไว้อย่างยากเย็น หนทางเดียวที่จะหนีจากตรงนั้นได้คือปล่อยให้ตนเองตกลงไปข้างล่างเท่านั้น มันเกิดขึ้นรวดเร็วมากอาห์เหม็ดได้แต่จ้องมองดูเพื่อนพูดอะไรไม่ออก ในช่วงเวลาแสนสั้นจนเขาไม่มีแม้โอกาสยื่นมือไปช่วยหรืออ้อนวอนพระเจ้าให้อภัยแก่เขา อาเด็มหายวับลงไปในความมืดที่เยียบเย็นในรอยแตกนั้นอย่างไร้ร่อยรอย พื้นดินกลับสู่ความสงบเงียบอีกครั้ง

ในขณะนั้นอาเด็มพบว่าตนเองอยู่ในบ่อโคลน ท้องฟ้าสดใส อากาศสดชื่น เขามองเห็นม้าลายจำนวนหนึ่ง ยีราฟและกวางอีกด้านหนึ่งของบ่อ ฝูงนกสีสันสวยงามบินข้ามหัวเขาไปพร้องส่งเสียงร้องของยามเช้า อีกฝั่งหนึ่งของบ่อเขามองเห็นนกกระจอกเทศกำลังเดินออกห่างจากไข่ของมันเพื่อไปหาอาหาร ไม่มีมนุษย์หรือแม้กระทั่งร่องรอยว่ามีชุมชนมนุษย์อาศัยอยู่เลย เขาค่อยๆเคลื่อนตัวเข้าไปใกล้ไข่นกกระจอกเทศคาดว่าจะหยิบไปไว้กินสักใบ พลันเขาก้าวออกจากบ่อโคลนนั่นโคลนที่ติดตามตัวเขาก็แห้งและหลุดหล่นลงตามพื้น แล้วก็พบว่าตัวเองกำลังเปลือยตั้งแต่หัวจรดเท้า จึงรีบวิ่งไปหลบข้างต้นมะเดื่อ อย่างไม่ทันคิดด้วยซ้ำว่าไม่มีมนุษย์หน้าไหนจะมามองเห็น แล้วเขาก็เด็ดใบไม้มาหนึ่งใบเพื่อมาปกปิดของลับเขาไว้
-------------------------------------------------------------------------


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น